Nesting Optimizer (โปรแกรมคำนวณการตัดชิ้นงาน 1 และ 2 มิติ) 

Nesting Optimizer
(โปรแกรมคำนวณการตัดชิ้นงาน 1 และ 2 มิติ)

Perpetual License
  Perpetual License คืออะไร ?

Nesting Optimizer เป็น โปรแกรมสำหรับกิจการงานผลิต ที่ใช้ในการคำนวณหาวิธีการตัดชิ้นงานแบบ 1 มิติ (ตัดความยาว) และ 2 มิติ (ตัดรูปสี่เหลี่ยม) สามารถใช้ได้ กับวัสดุหลายรูปแบบ เช่น เหล็กเส้น ท่อนไม้ ท่อน้ำ กระจก ไม้อัด แผ่นโลหะ รวมไปถึงแผ่นกระดาษ โดยโปรแกรมมุ่งคำนวณหาวิธีการตัดเพื่อทำให้เกิดการใช้งานวัตถุดิบให้เกิด ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า เหลือเศษวัตถุดิบให้น้อยที่สุด ช่วยลดต้นทุนการผลิต โดยที่โปรแกรมตัวนี้ เป็นผลงานการพัฒนาโดยฝีมือคนไทยจาก บริษัท Dreamsofts

สำหรับธุรกิจการผลิต หรือธุรกิจการค้าวัตถุดิบ วัสดุก่อสร้าง ที่ต้องมีการตัดวัตถุดิบเพื่อไปใช้ในกระบวนการผลิต หรือเพื่อการขายวัตถุดิบ สามารถหาซื้อ โปรแกรมคำนวณการตัดชิ้นงาน 1 และ 2 มิติ Nesting Optimizer ได้จาก Thaiware Shop ร้านขาย สินค้าไอที ออนไลน์แล้ววันนี้

ขอบเขตการใช้งานโปรแกรม : สามารถขอรหัสสำหรับปลดล็อกจากผู้พัฒนาโปรแกรมได้ 10 ครั้ง

คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features)

ความสามารถทั่วไปของโปรแกรมนี้

• สามารถคำนวณตัดได้ทั้ง 1 และ 2 มิติ ในโปรแกรมเดียว
• สามารถคำนวณการตัดชิ้นงานต่อครั้งได้ไม่จำกัดขนาด และจำนวน ทั้งชิ้นงานและวัตถุดิบ
• สามารถคำนวณการตัดที่มีวัตถุดิบต่างชนิด พร้อมกันได้
• รองรับขนาดเป็นเลขทศนิยม 4 หลัก
• เมนูแสดงผล 2 ภาษา (ไทย/อังกฤษ)
• สามารถกำหนดหน่วยวัดได้เองอิสระในแต่ละงานตัด
• มีระบบแฟ้มช่วยภาษาไทย
• ส่งออก/นำเข้า ข้อมูลในรูปแบบของไฟล์ โปรแกรม Microsoft Excel (.xls)

คำนวณการตัดได้หลายรูปแบบ

• สามารถควบคุมทิศทางการตัดชิ้นงาน ระหว่างชิดซ้าย กับ ชิดบนได้ (สำหรับงานตัด 2 มิติ)
• สามารถคำนวณต้นทุนของชิ้นงานจากราคาวัตถุดิบ
• สามารถเลือกระดับการคำนวณได้ 3 ระดับ
• สามารถเลือกวิธีการคำนวณระหว่าง คำนวณจำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้น้อยที่สุด หรือ มูลค่ารวมของวัตถุดิบที่ต้องใช้น้อยที่สุด

ฟีเจอร์ระดับสูงของโปรแกรม Nesting Optimizer

• สามารถผสานชิ้นงานที่มีขนาดเท่ากันให้เป็นรายการเดียวกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการประมวลผล (Merge Part)
• สามารถสั่งให้ซอฟต์แวร์ไปเลือกวัตถุดิบที่ตรงกับชิ้นงานที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ (Automatic Material)
• สามารถเพิ่มข้อมูลวัตถุดิบและชิ้นงานได้โดยตรงที่หน้างานตัด กรณีที่ไม่ต้องการเก็บข้อมูลวัตถุดิบและชิ้นงานในฐานข้อมูล (Direct Input) 
• สามารถคำนวณหาจำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้ จากรายการชิ้นงานที่กำหนดให้ (Automatic Material Quantity)
• สามารถปรับปรุงจำนวน วัตถุดิบคงเหลือ (Update Stock)
• สามารถส่งกลับเศษวัตถุดิบที่เหลือกลับไปเป็นวัตถุดิบชิ้นใหม่ได้

ฐานข้อมูลชิ้นงาน

• สามารถกำหนดรหัสและรายละเอียดของชิ้นงาน
• สามารถกำหนดขนาดของแต่ละชิ้นงานไปหลายรายการ
• สามารถกำหนดสีของชิ้นงานแต่ละแผ่นได้โดยอิสระ
• สามารถจำกัดการพลิกหมุนของชิ้นงาน 2 มิติได้ (กรณีที่ต้องการจำกัดทิศทางการตัด)
• สามารถนำเข้า/ส่งออกข้อมูลชิ้นงานผ่านไฟล์ .xls

ฐานข้อมูลวัตถุดิบ

• สามารถกำหนดรหัส และรายละเอียดของวัตถุดิบ
• สามารถกำหนดขนาดของแต่ละวัตถุดิบไปหลายรายการ
• สามารถกำหนดราคาของวัตถุดิบได้
• กำหนดจำนวนวัตถุดิบคงเหลือ เพื่อนำมาตรวจสอบจำนวนที่ต้องการใช้งานได้
• สามารถ นำเข้า/ส่งออก ข้อมูลวัตถุดิบผ่านไฟล์ .xls

ฐานข้อมูลรอยตัด

• สามารถกำหนดขนาดรอยตัดอิสระ
• สามารถ นำเข้า/ส่งออก ข้อมูลขนาดรอยตัดผ่านไฟล์ .xls

กำหนดรูปแบบการแสดงผล

• สามารถเลือกซ่อนหรือแสดง รหัสชิ้นงานและขนาดชิ้นงาน
• สามารถกำหนดรูปแบบของทศนิยมในการแสดงขนาดชิ้นงาน
• สามารถกำหนดการแสดงเส้นพิกัดบนแผ่นงานหลักได้
• สามารถเลือกการแสดงผลแบบสีหรือขาวดำได้ (ช่วยประหยัดค่าหมึกพิมพ์ ในกรณีที่ต้องการพิมพ์รายงานแบบภาพขาวดำ)
• สามารถกำหนดสีของเส้นรอยตัด
• สามารถกำหนดสีของวัตถุดิบที่ไม่ถูกใช้งาน
• สามารถเลือกดูเฉพาะชิ้นงานที่ต้องการ

รายงานการตัด

• มีรายงานที่จำเป็นให้เลือกใช้ 6 รูปแบบ
• มีรายงานการตัดแบบไฟล์ .xls เพื่อการส่งต่อข้อมูลไปใช้ต่อ
• สามารถกำหนดชื่อและที่อยู่ผู้ใช้เพื่อทำเป็นหัวรายงานได้หลายชุด

ความต้องการของระบบ (System Requirements)

• OS :
  • Windows 11*
  • Windows 10*
  • Windows 8*
  • Windows 7*
  • Windows Vista*
  • Windows 2000
  • Windows NT
  • Windows XP
  • Windows ME
  • Windows 98
  • Windows 95

*ต้องรันโปรแกรมในโหมด Compatibility mode for Windows XP (Service Pack 2)
*ต้องเลือก "Run this program as an adminstrator" ก่อนการใช้งาน