VAT
ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงิน
ระบบปฏิบัติการ Windows Server 2019 สำหรับสถานศึกษา หรือ "Academic License" คือระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ก้บ Data Center ของสถาบันการศึกษา อย่าง โรงเรียน มหาวิทยาลัย ต่างๆ ในด้านกระบวนการพัฒนาแอปพลิเคชัน รองรับปริมาณข้อมูลได้มากขึ้น ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้ และใช้งานคู่กับอุปกรณ์พกพาและอปุกรณ์ IOT (Internet of Things) ได้อย่างคล่องตัว
นอกจากนี้แล้ว มันยังสามารถเชื่อมต่อระหว่าง Data Center กับ Microsoft Azure ทั้งยังโอนย้ายโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในรูปแบบไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) โดยที่ในเวอร์ชัน Academic License นั้นเป็นเวอร์ชันราคาย่อมเยา สำหรับการใช้งาน ในมหาวิทยาลัย สถานศึกษา และต้องซื้อ CAL (Client Access License) ซึ่งเป็น License ของจำนวนลูกข่ายที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้งานระบบปฏิบัติการ อย่างถูกลิขสิทธิ์
โดยที่ CAL มี 2 ประเภทคือ
CAL นับสิทธิ์จาก Client เท่านั้น โดยจะใช้งานเครื่อง Server กี่เครื่องก็ได้ และในการใช้งาน CAL ต้องเป็น Version ที่เทียบเท่าหรือสูงกว่า Version ของ Windows Server และ SQL Server
Device CAL จะนับสิทธิ์โดยอิงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้าใช้งานเครื่อง Server โดยไม่สนใจว่าจะมีผู้ใช้งานอุปกรณ์นั้นกี่คน เหมาะกับ บริษัท องค์กร หรือสถานศึกษา ที่มีเครื่องน้อยกว่าพนักงาน เช่นบริษัทที่มีการทางานเป็นกะ
User CAL จะนับสิทธิ์โดยอิงจากผู้ใช้สิทธิ์ และไม่สนใจว่าผู้ใช้สิทธิ์นั้นจะมีการใช้งานอุปกรณ์กี่เครื่อง เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์ที่มีการใช้อุปกรณ์หลายเครื่องเช่น พนักงานระดับผู้บริหาร
สาหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการบุคคลที่อยู่ภายนอก องค์กร/สถานศึกษา สามารถทำการ Log in เชื่อมต่อเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรได้ ก็สามารถเข้างานได้ด้วย License แบบ CAL
ความพิเศษของ Windows Server Standard Core 2019 ในแบบ Academic License คือ นอกจากจะมี Device CAL และ User CAL เหมือนกับ License รูปแบบอื่นๆ แล้ว ก็ยังมี CAL แบบ Student User CAL และ Student Device CAL โดยที่ CAL ทั้งสองแบบนี้จะมีราคาต่ำกว่า CAL แบบปกติ โดยมีข้อกำหนดคือ CAL แบบ Student (ทั้งแบบ Device และ User) เป็นสิทธิสำหรับผู้ใช้งานที่เป็น นักเรียน/นักศึกษา หรือเป็นสิทธิของสถาบันการศึกษา ที่มอบให้กับ นักเรียน/นักศึกษา คนใดโดยเฉพาะเจาะจง แต่ห้ามนำไปใช้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องแลปฯ (Laboratories) หรือคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน
โดยที่ Windows Server 2019 เป็นระบบปฏิบัติการที่เชื่อมต่อการผสานรวมประโยชน์จาการจัดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรเอง (On-premises environments) เข้ากับบริการเซริฟ์เวอร์บนระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure เพื่อสร้างการให้บริการของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบผสมผสาน (Hybrid scenarios) ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าในการลงทุนทางด้าน IT ของสถานศึกษา รวมถึงยกระดับความปลอดภัยข้อมูล ลดความเสี่ยงที่กระบวนการทางธุรกิจจะหยุดชะงัก ด้วยชั้นของการปกป้องที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล (Data center) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สามารถขยายสเกลการให้บริการแอปพลิเคชันของสถานศึกษา ได้ด้วยสภาพการทำงานแบบเสมือน เปิดโอกาสให้ฝ่ายพัฒนา โปรแกรม/แอปพลิเคชัน สามารถสร้างแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่รันบนระบบคลาวด์ และยกระดับการทำงานของแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิมของธุรกิจ ด้วยการรันในแบบ Containers ที่ใช้ทรัพยากรของเครื่องเซิร์ฟเวอร์น้อยกว่า รวมถึงยังรองรับการรันแอปพลิเคชันในแบบ Micro-services ด้วย
ให้การจัดการเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือ Server Management ที่สามารถปรับแต่งการทำงาน และแก้ปัญหาของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงการจัดการกับภาระงาน (Workloads) ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้จากระยะไกล ผ่านโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ สามารถจัดการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้ทุกเวอร์ชัน ตั้งแต่ Windows Server 2008 R2 ไปจนถึงเวอร์ชัน 2019
รองรับการย้ายโหลดงาน และแอปพลิเคชันที่รันอยู่บน Windows Server ให้ไปรันบน บริการเซริฟ์เวอร์บนระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Hybrid โดยใช้เครื่องมือที่คุ้นเคยอย่าง Windows Server Active Directory , Windows Admin Center หรือ PowerShell ทำให้สามารถขยายสเกลการให้บริการของแอปพลิเคชันทางธุรกิจได้อย่างงายดาย ซึ่งเป็นบริการเซริฟ์เวอร์บนระบบคลาวด์ที่มีกาารซัพพอร์ตทางด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม
กรอกข้อมูล รับข่าวสารโปรโมชั่น