Affinity Designer 2 for Mac (โปรแกรมวาดรูป วาดกราฟิก ทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์)
Affinity Designer 2 for Mac มันเป็น โปรแกรมวาดรูปแบบเวกเตอร์ ระดับมืออาชีพ จาก ค่าย Serif ที่รวมความสามารถของการวาดรูป ทั้งแบบเวกเตอร์ และแบบแรสเตอร์ อย่าง โปรแกรม CorelDRAW และ โปรแกรม Adobe Illustrator เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และลงรายละเอียดในภาพวาดได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ด้วยระยะเวลาการพัฒนาโปรแกรมด้านงานสร้างสรรค์ภาพวาดมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี ทำให้ทุกฟีเจอร์ ทุกเครื่องมือ และทุก ๆ ฟังก์ชันของ โปรแกรมวาดรูปเวกเตอร์ Affinity Designer 2 for Mac ตอบโจทย์ความต้องการของมืออาชีพสายครีเอทีฟอย่างแท้จริง และด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มันกลายเป็นโปรแกรมด้านงานวาดรูปอันโดดเด่น ที่จะปฏิวัติปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของศิลปิน โดยในเวอร์ชันนี้ เป็นเวอร์ชันสำหรับใช้งานบนระบบปฏิบัติการ macOS
โดยคุณสามารถหาซื้อลิขสิทธิ์แท้ของ โปรแกรมวาดรูปเวกเตอร์ Affinity Designer 2 for Mac ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop) แล้ววันนี้
โปรแกรมด้านงานกราฟิกในตระกูล Affinity 2 มีทั้งหมดกี่เวอร์ชัน ? สำหรับ โปรแกรมด้านงานกราฟิกในตระกูล Affinity สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป นั้นมีวางจำหน่ายใน Thaiware Shop อยู่ทั้งหมด 7 เวอร์ชันหลัก ๆ ด้วยกันคือ
1. Affinity Photo 2 for Windows โปรแกรมแต่งรูประดับมืออาชีพ และจัดการไฟล์ RAW สำหรับตากล้องในโปรแกรมเดียว รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo 2 for Windows )
2. Affinity Photo 2 for Mac โปรแกรมแต่งรูประดับมืออาชีพ และจัดการไฟล์ RAW สำหรับตากล้องในโปรแกรมเดียว รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ macOS
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo 2 for Mac )
3. Affinity Publisher 2 for Windows โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ eBook สร้างสรรค์ผลงานออกแบบสิ่งพิมพ์ได้อย่างมืออาชีพ รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher 2 for Windows )
4. Affinity Publisher 2 for Mac โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ eBook สร้างสรรค์ผลงานออกแบบสิ่งพิมพ์ได้อย่างมืออาชีพ รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ macOS
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher 2 for Mac )
5. Affinity Designer 2 for Windows โปรแกรมระดับมืออาชีพ สำหรับงานวาดภาพกราฟิก ทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer 2 for Windows )
6. Affinity Designer 2 for Mac โปรแกรมระดับมืออาชีพ สำหรับงานวาดภาพกราฟิก ทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ macOS
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer 2 for Mac )
7. Affinity V2 Universal License รวมชุดสุดคุ้ม 3 โปรแกรมสำหรับงานกราฟิกให้ซื้อได้ในราคาเดียว ทั้ง Affinity Photo 2, Affinity Publisher 2 และ Affinity Designer 2 และยังมี โปรแกรม/แอปพลิเคชัน ให้ใช้งานครบทั้งบน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad เสียเงินครั้งเดียว ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity V2 Universal License )
ตัวอย่าง VDO สาธิตการใช้งาน โปรแกรมด้านงานกราฟิกในตระกูล Affinity 2 VIDEO
คุณสมบัติ และ ความสามารถ (Features) ประสิทธิภาพที่สัมผัสได้แบบเรียลไทม์
ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ภาพเวกเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ซับซ้อนให้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า ปรับปรุงโครงสร้างทั้งหมด และปรับปรุงประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เพื่อการใช้งานที่รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น การเลื่อน และการซูมดูรายละเอียดภาพที่แสดงผลแบบทันที และเนียนตาด้วยอัตราเฟรมเรต 60 fps แสดงผลการปรับแต่งต่าง ๆ ในทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำการไล่สี (Gradient Transform Tools) และการใส่ลูกเล่นเพิ่มเติม (Effects) สร้างสรรค์ หรือทำงานกับภาพวาดที่มีความละเอียดสูง ด้วยความสามารถในการซูมได้ละเอียดถึง 1,000,000% เพื่อการลงรายละเอียดที่แม่นยำ สับเปลี่ยนเครื่องมือ และโหมดการทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้เกิดกระบวนการสร้างสรรค์งานออกแบบที่เข้าใจง่าย ไม่สับสน ให้ผลงานที่เหมาะทั้งสำหรับการนำไปใช้ในรูปแบบดิจิทัล หรือนำไปเข้ากระบวนการพิมพ์ และการนำไปใช้ในขั้นตอนประสานงาน เปลี่ยนผลงานให้กลายเป็นทุกสิ่งที่ต้องการ อาทิ การขายภาพศิลปะ สื่อการตลาด รวมถึงหนังสือทั้งในรูปแบบของกระดาษ และอีบุ๊ก เครื่องมือการสร้างสรรค์ผลงานเวกเตอร์ที่แม่นยำ
เครื่องมือวาดภาพเวกเตอร์ที่ผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดี และทำงานในแบบที่เราต้องการ รวมเครื่องมือชั้นยอดสำหรับการวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็น Pen Tool Node Tool Curve Editing Smart Shape Tool มีฟีเจอร์ Stabilisation สำหรับการวาดเส้นด้วยเครื่องมือ Pencil และ Brush เพื่อให้การวาดส่วนโค้งด้วยมือเปล่า (Freehand) นั้นทำได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล ทำคำสั่งในการรวมวัตถุ (Boolean Operations) โดยไม่สูญเสียรายละเอียดของวัตถุต้นฉบับ การใส่เอฟเฟค, การทำ Blend Mode และการปรับแต่งภาพ ที่แสดงให้เห็นผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ ควบคุมระดับการไล่โทนสี (Gradient) และการทำวัตถุโปร่งใส (Transparency) ได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล การเลือกแบบกลุ่ม (Select Same) สำหรับวัตถุต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติแบบเดียวกัน ทำให้การแก้ไข ปรับแต่งรายละเอียดในผลงานทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น อาทิ สีเดียวกัน (Fill Color) เส้นขอบสีเดียวกัน (Stroke Color) ความหนาเส้นเท่ากัน (Stroke Weight) ระดับความโปร่งใส (Transparency) Blend Mode แบบเดียวกัน ฟีเจอร์ PDF Passthrough ทำให้ไฟล์ PDF ที่อยู่รวมอยู่ในผลงาน ได้รับการส่งออก (Export) ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยยังคงนำเสนอภาพลักษณ์ของของไฟล์ PDF ต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้จะไม่ได้มีการติดตั้งฟอนต์ที่มีอยู่ในไฟล์ PDF ก็ตาม เลือกได้ว่าจะสร้างผลงานแบบ เวกเตอร์ หรือ แรสเตอร์
สับเปลี่ยนพื้นที่การทำงานระหว่างการวาดภาพแบบเวกเตอร์ หรือแรสเตอร์ได้ในคลิกเดียว เพิ่มแปรงแบบแรสเตอร์ลงบนภาพวาด ผสมผสานแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ เพื่อดึงจุดเด่นของทั้งสองสไตล์มาใช้ประโยชน์ในผลงานอย่างเต็มที่ เครื่องมือสร้างภาพแรสเตอร์ระดับคุณภาพ เพื่อการสร้าง Texture, การทำ Masking และการตกแต่งอาร์ตเวิร์ค แก้ไขภาพไอคอนได้ลงลึกถึงระดับพิกเซล ใส่เกรนหยาบลงในภาพเวกเตอร์ อิสระในการสร้างผลงานภาพวาด ที่หาไม่ได้จากโปรแกรมอื่น สร้างสรรค์งานศิลปะด้วยตัวอักษร (Typography) ที่สวยงาม ละเอียดอ่อน
ทำงานกับตัวอักษรได้อย่างยืดหยุ่น และรองรับแบบอักษร OpenType ปรับแต่งตัวอักษรให้มีความสวยงามเชิงศิลปะ และมีกรอบข้อความที่สวยงาม ปรับแต่งตัวอักษรและสไตล์การวางย่อหน้า เขียนตัวอักษรให้ลื่นไหลล้อไปกับแนวเส้นที่วาดขึ้น สร้างมาเพื่อให้เหมาะกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานของเรา
เครื่องมือ Artboards ดูผลลัพธ์การออกแบบภาพกราฟิก หรือการออกแบบอินเทอร์เฟสสำหรับหลายอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอต่างกัน ได้ในหน้าจอเดียว เหมาะทั้งสำหรับการแสดงแบบโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือแสดง Mockups การออกแบบหน้าเว็บ โดยไม่มีขีดจำกัดในเรื่องจำนวนของ Artboards บันทึก History ขั้นตอนการออกแบบงาน เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับแต่งแก้ไขได้อีกในภายหลัง สามารถปรับแต่ง แป้นพิมพ์ลัด (Keyboard Shortcut) ได้เอง เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน รองรับการทำงานกับฟอร์แมตไฟล์มาตรฐานด้านงานกราฟิก อาทิ ไฟล์ PSD ไฟล์ AI ไฟล์ PDF ไฟล์ EPS ไฟล์ SVG ไฟล์ JPG ไฟล์ TIFF ไฟล์ EXR รองรับการจัดวางวัตถุลงบนภาพแบบ Grid เพื่อระยะห่าง และมิติที่สวยงามพอดี ฟีเจอร์ Package จัดเก็บไฟล์งานของเราไปพร้อมกับ ไฟล์ภาพ และฟอนต์อักษร ที่มีการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการส่งไฟล์เข้าโรงพิมพ์ หรือการประสานงานส่งไฟล์ไปยังขั้นตอนงานอื่น ๆ สร้างเส้น Contour หรือเพิ่มความหนาของส่วนโค้งได้อย่างง่าย ๆ ด้วย Contour Tool สร้างสรรค์ลายเส้นนามธรรม (Abstract Shapes) หรือสร้าง Offset Path ได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม เหมาะสำหรับงานออกแบบโลโก้ หริองานออกแบบสติกเกอร์ ฟังก์ชันและเครื่องมือนับร้อยที่ช่วยประหยัดเวลาในการสร้างผลงาน พร้อมความสามารถในการปรับแต่ง Keyboard Shortcuts ปรับแต่งพื้นที่การทำงานให้เหมาะกับสไตล์ของเรา ให้ผลงานที่สีสันถูกต้องสวยงาม
รองรับ ระบบสี หรือ โหมดสี สำหรับงานกราฟิกระดับมืออาชีพได้หลายแบบ อาทิ CMYK LAB RGB Grayscale ทำงานกับภาพที่ระดับความลึกสี 16-Bit per Channel โดยสมบูรณ์ เครื่องมือ Slice Export สำหรับการแยกบันทึกไฟล์แต่ละองค์ประกอบของงานออกแบบในคลิกเดียว ด้วยฟีเจอร์ Live Pixel Preview ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายว่า ผลงานภาพวาดของเรา จะถูกส่งออก (Export) ไปได้อย่างสวยงามขนาดไหน และทำงานได้ดีบนหน้าจอแบบความละเอียดสูง ด้วย Blend Mode แบบ Divide ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ รวมถึงยังมีประโยชน์ในการแก้ปัญหาสีภาพผิดเพี้ยน และการปรับแต่งโทนสีภาพอินฟราเรด (Infrared Imagery) ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน Affinity Designer 2 เวอร์ชันล่าสุด
ฟีเจอร์ Vector Warp ที่ถูกร้องขอโดยผู้ใช้งานจำนวนมาก ได้ถูกนำมาใส่ในโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว สร้างสรรค์ภาพศิลปะจากความบิดเบี้ยวของตัวอักษร หรือภาพเวกเตอร์ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับงานต้นฉบับ พรีวิวความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ด้วยเครื่องมือ Shape Builder Tool ช่วยให้การสร้างรูปวาด หรือรูปทรงเป็นเรื่องง่ายขึ้น ในรูปแบบของการ รวม/ตัดทิ้ง รูปทรง และ Segments ด้วยการสร้างผลงานในแบบอินเตอร์แอคทีฟ สร้างผลงานแปลกตาด้วย Knife Tool ที่สามารถหั่นแยก รูปทรง ส่วนโค้ง หรือตัวอักษร ให้แยกส่วนออกจากกัน และทำงานได้เร็วกว่าที่เคย มาพร้อมกับความสามารถที่เป็นประโยขน์อย่างมาก สำหรับการทำงานกับงานเขียนแบบก่อสร้าง ด้วยการวัดความยาวเส้น วัดระยะทาง และวัดขนาดพื้นที่ของวัตถุใด ๆ ในภาพ โดยอ้างอิงกับสเกลของภาพนั้น มาพร้อมกับมุมมองใหม่แบบ X-Ray ที่เหมาะกับการผ่าชิ้นงาน ให้เห็นชิ้นส่วน หรือองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน รองรับการนำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต DXF / DWG จาก โปรแกรม AutoCAD เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมในงานเขียนแบบวิศวกรรม โดยที่ยังคงรักษาโครงสร้างเลเยอร์ รวมถึงสเกลของไฟล์ต้นฉบับ ความต้องการของระบบ (System Requirements) OS : macOS Ventura 13 macOS Monterey 12 macOS Big Sur 11 macOS Catalina 10.15 CPU : Mac with Apple silicon (M1/M2) chip or Intel processor RAM : 8 GB. RAM recommended Harddisk : Up to 2.8 GB. of available hard drive space; more during installation Display : 1,280x768 display size or larger Mac Pro, iMac, iMac Pro, MacBook, MacBook Pro, MacBook Air, Mac mini