Affinity for Education (รวมชุดโปรแกรมแต่งรูป วาดรูป ออกแบบสิ่งพิมพ์ ราคาถูก สำหรับสถานศึกษา)
Affinity for Education รวม ชุดโปรแกรมด้านงานกราฟิก ระดับมืออาชีพทั้ง 3 ตัว ขายในราคาถูก โดยในชุดจะประกอบไปด้วย
Affinity Photo 2 : โปรแกรมแต่งรูป ที่มีฟีเจอร์คล้าย ๆ โปรแกรม Adobe PhotoShop และมีฟีเจอร์ในการจัดการไฟล์ RAW แบบ โปรแกรม Adobe Lightroom ด้วย Affinity Publisher 2 : โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ e-Book ในลักษณะเดียวกับโปรแกรม Adobe InDesign Affinity Designer 2 : โปรแกรมวาดภาพแบบเวกเตอร์ เช่นเดียวกับ โปรแกรม CorelDRAW และ โปรแกรม Adobe Illustrator และรองรับการวาดภาพแบบแรสเตอร์ได้ เรียกได้ว่าลงทุนกับ ชุดโปรแกรมแต่งรูป วาดรูป ออกแบบสิ่งพิมพ์ รุ่นสำหรับสถานศึกษา ราคาถูก Affinity for Education เพียงชุดเดียว แต่สิ่งที่จะได้คือ โปรแกรมระดับมืออาชีพถึง 3 ตัว ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ คุ้มค่ากับการลงทุน โดยในเวอร์ชันนี้ เป็นเวอร์ชันสำ หรั บสถานศึกษา ราคาถูกเ ป็นพิเศษ ที่รองรับทั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
โดยคุณสามารถหาซื้อลิขสิทธิ์แท้ของ ชุดโปรแกรมแต่งรูป วาดรูป ออกแบบสิ่งพิมพ์ รุ่นสำหรับสถานศึกษา ราคาถูก Affinity for Education ได้ที่ ร้านขาย สินค้าไอที ไทยแวร์ช้อป (Thaiware Shop) แล้ววันนี้
โปรแกรมด้านงานกราฟิก รุ่นองค์กร ในตระกูล Affinity 2 มีทั้งหมดกี่เวอร์ชัน ? สำหรับ โปรแกรมด้านงานกราฟิก รุ่นองค์กร ในตระกูล Affinity 2 นั้นมีวางจำหน่ายใน Thaiware Shop อยู่ทั้งหมด 5 เวอร์ชันหลัก ๆ ด้วยกันคือ
1. Affinity Photo 2 (Multi-user) for Business โปรแกรมแต่งรูประดับมืออาชีพ และจัดการไฟล์ RAW สำหรับตากล้องในโปรแกรมเดียว รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Photo 2 (Multi-user) for Business )
2. Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ โบรชัวร์ eBook สร้างสรรค์ผลงานออกแบบสิ่งพิมพ์ได้อย่างมืออาชีพ รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Publisher 2 (Multi-user) for Business )
3. Affinity Designer 2 (Multi-user) for Business โปรแกรมระดับมืออาชีพ สำหรับงานวาดภาพกราฟิก ทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ รุ่นองค์กรธุรกิจ เข้าถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทีม Support ของโปรแกรม รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity Designer 2 (Multi-user) for Business )
4. Affinity V2 Universal License (Multi-user) for Business รวมชุดโปรแกรมทั้ง 3 ตัวในซีรีส์ Affinity ให้ซื้อในราคาเดียว โดยมีทั้ง Affinity Photo (โปรแกรมแต่งภาพ) Affinity Publisher (โปรแกรมออกแบบสิ่งพิมพ์) และ Affinity Designer (โปรแกรมวาดภาพกราฟิก) รุ่นองค์กรธุรกิจ รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity V2 Universal License (Multi-user) for Business )
5. Affinity for Education รวมชุดโปรแกรมทั้ง 3 ตัวในซีรีส์ Affinity ให้ซื้อในราคาถูกเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานในสถานศึกษา โดยมีทั้ง Affinity Photo (โปรแกรมแต่งภาพ) Affinity Publisher (โปรแกรมออกแบบสิ่งพิมพ์) และ Affinity Designer (โปรแกรมวาดภาพกราฟิก) รองรับการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ iPad
(ดูรายละเอียด : โปรแกรม Affinity for Education )
ตัวอย่าง VDO สาธิตการใช้งาน โปรแกรมด้านงานกราฟิกในตระกูล Affinity 2 VIDEO
โดยที่ โปรแกรม และแอปพลิเคชัน ที่รวมอยู่ในชุด Affinity for Education ประกอบไปด้วย
รายชื่อของ โปรแกรม และแอปพลิเคชัน ที่รวมอยู่ในชุด Affinity for Education 1. ฟีเจอร์ของ โปรแกรม Affinity Photo 2 บน Windows และ Mac
การตกแต่งแก้ไขภาพที่เห็นผลแบบเรียลไทม์ ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ภาพเวกเตอร์ขนาดใหญ่ รองรับการทำงานกับไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่เกิน 100 ล้านพิกเซล การเลื่อน และการซูมดูรายละเอียดภาพที่แสดงผลแบบทันที และเนียนตาด้วยอัตราเฟรมเรต 60fps เปิด, แก้ไข และบันทึกไฟล์ในฟอร์แมต ของ โปรแกรม Adobe Photoshop (.PSD) รองรับการทำงานกับค่า Colour Spaces หลากหลายแบบ อาทิ RGB, CMYK, Greyscale และแบบ LAB รองรับการตกแต่งภาพที่ระดับความลึกสีทั้งแบบ 16 บิต และ 32 บิต ต่อแชนแนล ปรับปรุงโครงสร้างทั้งหมด และปรับปรุงประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เพื่อการใช้งานที่รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น รองรับการทำงานกับฟอร์แมตไฟล์ภาพระดับมาตรฐานได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์ PNG ไฟล์ TIFF ไฟล์ JPG ไฟล์ GIF ไฟล์ SVG ไฟล์ EPS ไฟล์ EXR ไฟล์ HDR ไฟล์ PDF รีทัชใบหน้า นางแบบ/นายแบบ อย่างสวยงามไร้ที่ติด้วย เครื่องมือที่จัดเตรียมเอาไว้ให้มากมาย อาทิ Dodge, Burn, Clone, Patch และ Blemish Removal ลดเลือนริ้วรอยหรือสิ่งไม่พึงประสงค์ด้วยหัวแปรง Inpainting ที่ทำงานได้ราวกับเวทมนต์ ทำงานกับเครื่องมือ Liquify ปรับแต่งให้ได้รูปทรง สัดส่วนที่สวยงาม สมบูรณ์แบบ ช่วยให้การตกแต่งรูปง่ายขึ้นอีกด้วยการสร้าง Selection กับรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างเส้นผม หรือเส้นขนของสัตว์ได้อย่างแม่นยำ ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย สร้างสรรค์ภาพถ่ายคุณภาพสูงในรูปแบบไฟล์ RAW สัมผัสกับคุณภาพระดับสูงด้วยการทำงานกับภาพในแบบ 32-bit ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เปิดอิสระให้กับการสร้างสรรค์ผลงานภาพวาด ด้วยไลบรารี่ของหัวแปรงที่มีให้เลือกใช้จำนวนมาก และยังสามารถสร้างหัวแปรงของเราเองได้ด้วย ให้ควารู้สึกในการวาดภาพที่เป็นธรรมชาติ สามารถรวมหลายหัวแปรงเข้าด้วยกันในการลงลายเส้นครั้งเดียว ด้วยเอนจิ้นของหัวแปรงที่ทรงพลัง รองรับการทำงานกับเลเยอร์จำนวนมากแบบไม่จำกัดจำนวน, การทำงานในแบบ Layer Groups, รองรับ Adjustment Layers และรองรับการทำ Layer Masks เพื่อควบคุมความโปร่งแสงของเลเยอร์ บันทึกขั้นตอนการแต่งภาพที่เราต้องทำบ่อย ๆ กับภาพจำนวนมากไว้ในรูปแบบของ Macro ที่เราสามารถเรียกใช้เมื่อต้องการ ช่วยลดความยุ่งยากในการทำงานไปได้เยอะ เปิดไฟล์ RAW จากกล้องดิจิทัล และไฟล์ภาพฟอร์แมตอื่น ๆ บนพื้นที่การทำงานที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการจัดการกับภาพถ่าย อัปเดตให้รองรับการทำงานกับไฟล์ RAW จากกล้องดิจิทัลรุ่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ ปรับค่าต่าง ๆ ในภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย อาทิ Exposure Blackpoint Clarity Vibrance White Balance Shadows Highlights และค่าอื่น ๆ อีกมากมาย เครื่องมือชั้นยอดในการแก้ปัญหาที่เกิดจากเลนส์กล้อง อาทิ Chromatic Aberration (แก้ปัญหาความคลาดสี) Defringe (ลดความคลาดสี) Vignette (แก้ปัญหาขอบภาพมืด) Noise Reduction (เครื่องมือลดเม็ดสีรบกวนในภาพที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม) ภายในโปรแกรมมี Library ขนาดใหญ่ของภาพวาด, เท็กซ์เจอร์ และเทคโนโลยีหัวแปรง DAUB ที่ให้อารมณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน เสมือนการวาดภาพบนผืนผ้าใบด้วยสีจริง ปรับแต่งหัวแปรงให้มีเอกลักษณ์ของเราเอง ด้วยรายการปรับแต่งที่สามารถลงลึกในรายละเอียด และสร้างความแตกต่างได้จริง รวมการทำงานของหัวแปรงหลายแบบ และวาดรวมกันในลงแปรงครั้งเดียว รองรับการทำงานอย่างเต็มรูปแบบกับ กระดานวาดภาพ Wacom และกระดานวาดภาพอื่น ๆ ให้น้ำหนักการลงสีตามน้ำหนักการกดหัวปากกา สร้างไฟล์ภาพเพื่อการใช้งานจากตันฉบับไฟล์ RAW แบบไม่ทำลายคุณภาพของต้นฉบับ (Non-destructively) และสามารถใช้ฟีเจอร์ StudioLink เพื่อวางไฟล์ RAW ลงในเอกสารของ โปรแกรม Affinity Publisher 2 เพื่อนำไฟล์ภาพไปใช้ในสื่อสิ่งพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย สร้างการ Mask โดยอิงจากค่าสี แล้วทำการปรับแต่ง ใส่เอฟเฟกต์ หรือทำการลงสีบน Mask ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากค่า Hue สร้าง Mask โดยอ้างอิงจากช่วงความสว่าง (Luminosity Range) อย่างเช่นการเลือก ช่วง Highlights หรือช่วง Shadows ของภาพ เพื่อทำการปรับแต่งเฉพาะส่วนได้ตามต้องการ ผสานรวม Mask Layers หลายชั้นเข้าด้วยกัน ด้วยการใช้คำสั่งที่หลากหลาย อาทิ Add, Intersect, Subtract และ XOR เป็นการสร้าง Mask ใหม่โดยไม่ทำลาย Mask ต้นฉบับ ด้วยฟีเจอร์ Live Mesh Warp ทำให้การนำภาพต้นฉบับ ไปแปะบนวัตถุต่าง ๆ อาทิ การแปะภาพลงบนหน้าจอ หรือหน้าหนังสือ ทำได้ง่าย และสามารถทำการปรับแก้ภาพต้นฉบับได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ปรับปรุง Brush Engine ให้ยอดเยี่ยมขึ้น สามารถจัดเรียงหัวแปรงด้วยการลากและวาง ยกระดับประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการลงสี 2. ฟีเจอร์ของ แอปพลิเคชัน Affinity Photo 2 บน iPad
ให้การแต่งรูปที่สวยงามอย่างมืออาชีพ ไม่จำกัดอยู่เพียงบนเครื่องเดสก์ทอปอีกต่อไป สร้างสรรค์ผลงานได้ในทุกสถานที่อย่างไร้ข้อจำกัด ทุกเครื่องมือ และทุกการควบคุม ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้เหมาะสำหรับการแตะสัมผัสบนหน้าจอ iPad ให้ประสบการณ์ในการแต่งรูปที่น่าประทับใจ อำนวยความสะดวกด้วย Quick Menu ที่ทำให้เราเข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อม Compact Mode หรือการแสดงผลอย่างย่อของแถบเลเยอร์ และแถบการใช้งานแปรง ประหยัดพื้นที่บนหน้าจอ มีเนื้อที่สร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น ปรับแต่งมาให้พร้อมสำหรับ iPadOS เวอร์ชันล่าสุด ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานหน่วยความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการแต่งรูปแบบง่าย ๆ หรือการจัดองค์ประกอบภาพที่ซับซ้อน ด้วยประสิทธิภาพ และความสามารถในระดับเดียวกับโปรแกรม Affinity Photo 2 บนเดสก์ทอป 3. ฟีเจอร์ของ โปรแกรม Affinity Publisher 2 บน Windows และ Mac
ออกแบบหน้าคู่ (Page Spreads) ของนิตยสารได้อย่างสวยงาม รองรับการวางเลย์เอาต์สำหรับแม่แบบหน้าหนังสือทั้งแบบ Master Pages และ Nested Master Pages จัดระยะการวางวัตถุลงบนหน้าหนังสือให้พอเหมาะพอดี ด้วยตัวช่วยอย่าง Guides Grids Snap วางย่อหน้าตัวอักษรให้ห่อหุ้มรูปภาพ หรือวัตถุใด ๆ (Wrap Text) ด้วยการกำหนดขอบเขตการวางตัวอักษรได้อย่างละเอียด ฟีเจอร์ PDF Passthrough ทำให้ไฟล์ PDF ที่อยู่รวมอยู่ในผลงาน ได้รับการส่งออก (Export) ออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยยังคงนำเสนอภาพลักษณ์ของของไฟล์ PDF ต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้จะไม่ได้มีการติดตั้งฟอนต์ที่มีอยู่ในไฟล์ PDF ก็ตาม ด้วยฟีเจอร์ Data Merge ทำให้สามารถนำ รูปภาพ และข้อความ มาวางบนเลย์เอาต์ด้วยวิธีการใส่ลิงก์ (รองรับการสร้างลิงก์ด้วยไฟล์ Text/CSV, JSON และไฟล์ Microsoft Excel ) อำนวยความสะดวกให้กับการออกแบบสิ่งพิมพ์จำนวนมาก ที่ข้อความ และภาพประกอบ มีความแตกต่างกันไปในแต่ละหน้ากระดาษ อย่างเช่นการสั่งพิมพ์ นามบัตร จ่าหน้าซองจดหมาย บัตรเชิญ เป็นต้น สร้างความประทับใจให้กับเอกสารทางธุรกิจ อาทิ เอกสารงานวิจัย เอกสารแสดงผลงาน หรือเอกสารนำเสนอ สินค้า/บริการ ที่สวยสะดุดตา นำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต IDML จาก โปรแกรม Adobe InDesign ได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมการทำงานกับฟอนต์ตัวอักษรแบบ OpenType มีเครื่องมือการตกแต่งตัวอักษร อาทิ กรอบข้อความสวย ๆ (Text Decorations), การเน้นตัวพิมพ์ใหญ่สวย ๆ ในอักษรตัวแรกของย่อหน้า หรืออักษรตัวแรกของบท (Drop Caps) และการตกแต่งตัวอักษรแบบ Initial Words แสดงเส้นกริด (Baseline Grid) ที่ช่วยแนะนำการวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าหนังสือ และมีเส้นบรรทัดที่ช่วยในการจัดตำแหน่งการเยื้องย่อหน้าให้สวยงาม (Text Frame Rulers) สามารถทำลิงก์ (Link) ภาพทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือ เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบความพร้อมของภาพทั้งหมดได้ง่าย ๆ ในที่เดียว วางไฟล์ภาพลงบนหน้าหนังสือได้หลากหลายฟอร์แมต อาทิ ไฟล์ PSD ไฟล์ AI ไฟล์ PDF ไฟล์ JPG ไฟล์ TIFF ไฟล์ PNG ฟอร์แมตไฟล์ภาพของ Affinity รองรับการทำงานกับไฟล์ PSD ที่อยู่บนเลย์เอาต์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการจัดแสดงไฟล์ PSD ในรูปแบบภาพ Bitmap ทำให้ได้ผลลัพธ์การแสดงผลที่ดีกว่า ถึงแม้จะไม่มีการติดตั้งฟอนต์ที่ใช้ในไฟล์ PSD และในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถทำการปรับแต่งเลเยอร์ของไฟล์ PSD ได้ตามต้องการ เครื่องมือ Pen และ Node อันทรงประสิทธิภาพ เพื่อสร้างภาพกราฟิกเวกเตอร์ประกอบหน้าหนังสือ รองรับการทำ Boolean Operations เพื่อการ รวม, ตัดเฉือน หรือ ตัดแบ่งรูปทรง ควบคุมระดับการไล่โทนสี (Gradient) และการทำวัตถุโปร่งใส (Transparency) ได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล ด้วย Blend Mode แบบ Divide ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ รวมถึงยังมีประโยชน์ในการแก้ปัญหาสีภาพผิดเพี้ยน และการปรับแต่งโทนสีภาพอินฟราเรด (Infrared Imagery) ประสานงานในการจัดทำหนังสือได้ง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมากก่อน ด้วยการแพ็กรวมเอกสาร ไฟล์ภาพประกอบทั้งหมด รวมถึงฟอนต์อักษร เพื่อส่งต่อไปยังทีมงาน และยังสามา รถรวมหลาย ๆ ไฟล์ให้เป็นเอกสารขนาดใหญ่ไฟล์เดียวในรูปแบบของ รายงานประจำปี หรือหนังสือเล่มใหญ่ รองรับทั้งการสร้างสรรค์งานพิมพ์ ระบบสี หรือ โหมดสี แบบ CMYK และ Spot Colour มี Pantone Library ในโปรแกรม ทำให้เลือกใช้สีได้ตรงตามมาตรฐานงานพิมพ์ รองรับการ Export ไฟล์งานเลย์เอาต์หน้าหนังสือ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ตามมาตรฐานงานพิมพ์ระดับมืออาชีพอย่าง PDF/X-1a, PDF/X-3, PDF/X-4 ฟีเจอร์ Package จัดเก็บไฟล์งานของเราไปพร้อมกับ ไฟล์ภาพ และฟอนต์อักษร ที่มีการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการส่งไฟล์เข้าโรงพิมพ์ หรือการประสานงานส่งไฟล์ไปยังขั้นตอนงานอื่น ๆ สร้างสรรค์งานเลย์เอาต์ที่สวยงาม และเป็นส่วนผสมของ ข้อความ กับภาพประกอบหลากหลายฟอร์แมต อาทิ PSD, AI, PDF, JPG, TIFF, DWG ทั้งในรูปแบบของภาพ แรสเตอร์ และ เวกเตอร์ เชื่อมโยงวัตถุดิบด้านงานกราฟิก ระหว่างโปรแกรมตัวอื่น ๆ ของ Affinity 2 ได้อย่างสะดวกง่ายดายผ่าน StudioLink ด้วยฟีเจอร์ในระดับก้าวหน้า ทำให้เรียกใช้งานเครื่องมือตกแต่งภาพที่มีอยู่ใน โปรแกรม Affinity Photo 2 หรือเรียกใช้เครื่องมือการวาดภาพเวกเตอร์ ที่มีอยู่ใน โปรแกรม Affinity Designer 2 ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาออกจากโปรแกรมนี้ ฟีเจอร์ Book จะช่วยรวมหลายเอกสารงานเลย์เอาต์ ให้กลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่ มีการจัดลำดับหมายเลขหน้า จัดทำสารบัญ สามารถประสานงานการจัดทำหนังสือโดยที่ทีมงานแต่ละคนดูแลเนื้อหาของตัวเอง ด้วยฟีเจอร์ Place Auto-flow ทำให้เราสามารถสร้างเลย์เอาต์การวางภาพลงบนหน้าหนังสือ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการวางเรียงภาพได้โดยอัตโนมัติ สามารถ เปิด/ปิด การแสดงเลเยอร์ใด ๆ ของไฟล์ภาพ หรือไฟล์เอกสารที่เอามาวางลงในเลย์เอาต์ โดยสามารถควบคุมการแสดงเลเยอร์ของไฟล์หลายฟอร์แมต อาทิไฟล์ PSD, PDF, DWG และ DXF ด้วยเครื่องมือ Style Picker ทำให้เราสามารถคัดลอก (Copy) สไตล์ของ วัตถุ หรือ ข้อความ เพื่อนำไปใช้ในหน้าเอกสารอื่นได้ตามต้องการ ข้อมูลเพิ่มเติม : ระบบสี หรือ โหมดสี RGB และ CMYK คืออะไร ? แตกต่างกันอย่างไร ?
4. ฟีเจอร์ของ แอปพลิเคชัน Affinity Publisher 2 บน iPad
ให้การสร้างสรรค์สื่อสิ่งพิมพ์ และอีบุ๊กที่สวยงามอย่างมืออาชีพ ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาใกล้เคียงกับโปรแกรมบนเดสก์ทอป สร้างสรรค์ผลงานได้ในทุกสถานที่อย่างไร้ข้อจำกัด ทุกเครื่องมือ และทุกการควบคุม ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้เหมาะสำหรับการแตะสัมผัสบนหน้าจอ iPad ให้ประสบการณ์ในการแต่งรูปที่น่าประทับใจ อำนวยความสะดวกด้วย Quick Menu ที่ทำให้เราเข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อม Compact Mode หรือการแสดงผลอย่างย่อของแถบเลเยอร์ และแถบการใช้งานแปรง ปรับแต่งมาให้พร้อมสำหรับ iPadOS เวอร์ชันล่าสุด ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานหน่วยความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี สร้างสรรค์เลย์เอาต์ที่น่าตื่นตาแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมสำหรับเข้ากระบวนการงานพิมพ์ และเผยแพร่อีบุ๊ก 5. ฟีเจอร์ของ โปรแกรม Affinity Designer 2 บน Windows และ Mac
ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ภาพเวกเตอร์ขนาดใหญ่ การเลื่อน และการซูมดูรายละเอียดภาพที่แสดงผลแบบทันที และเนียนตาด้วยอัตราเฟรมเรต 60 fps แสดงผลการปรับแต่งต่าง ๆ ในทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำการไล่สี (Gradient Transform Tools) และการใส่ลูกเล่นเพิ่มเติม (Effects) สร้างสรรค์ หรือทำงานกับภาพวาดที่มีความละเอียดสูง ด้วยความสามารถในการซูมได้ละเอียดถึง 1,000,000% เพื่อการลงรายละเอียดที่แม่นยำ สับเปลี่ยนเครื่องมือ และโหมดการทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้เกิดกระบวนการสร้างสรรค์งานออกแบบที่เข้าใจง่าย ไม่สับสน รวมเครื่องมือชั้นยอดสำหรับการวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็น Pen Tool Node Tool Curve Editing Smart Shape Tool มีฟีเจอร์ Stabilisation สำหรับการวาดเส้นด้วยเครื่องมือ Pencil และ Brush เพื่อให้การวาดส่วนโค้งด้วยมือเปล่า (Freehand) นั้นทำได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล การใส่เอฟเฟกต์, การทำ Blend Mode และการปรับแต่งภาพ ที่แสดงให้เห็นผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ การเลือกแบบกลุ่ม (Select Same) สำหรับวัตถุต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติแบบเดียวกัน ทำให้การแก้ไข ปรับแต่งรายละเอียดในผลงานทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น อาทิ สีเดียวกัน (Fill Color) เส้นขอบสีเดียวกัน (Stroke Color) ความหนาเส้นเท่ากัน (Stroke Weight) ระดับความโปร่งใส (Transparency) Blend Mode แบบเดียวกัน ฟีเจอร์ PDF Passthrough ทำให้ไฟล์ PDF ที่อยู่รวมอยู่ในผลงาน ได้รับการส่งออก (Export) ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยยังคงนำเสนอภาพลักษณ์ของของไฟล์ PDF ต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้จะไม่ได้มีการติดตั้งฟอนต์ที่มีอยู่ในไฟล์ PDF ก็ตาม สับเปลี่ยนพื้นที่การทำงานระหว่างการวาดภาพแบบเวกเตอร์ หรือแรสเตอร์ได้ในคลิกเดียว ผสมผสานแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานทั้งแบบเวกเตอร์ และแรสเตอร์ เพื่อดึงจุดเด่นของทั้งสองสไตล์มาใช้ประโยชน์ในผลงานอย่างเต็มที่ เครื่องมือสร้างภาพแรสเตอร์ระดับคุณภาพ เพื่อการสร้าง Texture, การทำ Masking และการตกแต่งอาร์ตเวิร์ค ทำงานกับตัวอักษรได้อย่างยืดหยุ่น และรองรับแบบอักษร OpenType ปรับแต่งตัวอักษรให้มีความสวยงามเชิงศิลปะ และมีกรอบข้อความที่สวยงาม เครื่องมือ Artboards ดูผลลัพธ์การออกแบบภาพกราฟิก หรือการออกแบบอินเตอร์เฟสสำหรับหลายอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอต่างกัน ได้ในหน้าจอเดียว บันทึก History ขั้นตอนการออกแบบงาน เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับแต่งแก้ไขได้อีกในภายหลัง รองรับการทำงานกับฟอร์แมตไฟล์มาตรฐานด้านงานกราฟิก อาทิ ไฟล์ PSD ไฟล์ AI ไฟล์ PDF ไฟล์ EPS ไฟล์ SVG ไฟล์ JPG ไฟล์ TIFF ไฟล์ EXR รองรับการจัดวางวัตถุลงบนภาพแบบ Grid เพื่อระยะห่าง และมิติที่สวยงามพอดี ฟีเจอร์ Package จัดเก็บไฟล์งานของเราไปพร้อมกับ ไฟล์ภาพ และฟอนต์อักษร ที่มีการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการส่งไฟล์เข้าโรงพิมพ์ หรือการประสานงานส่งไฟล์ไปยังขั้นตอนงานอื่น ๆ รองรับระบบสีสำหรับงานกราฟิกระดับมืออาชีพได้หลายแบบ อาทิ CMYK LAB RGB Grayscale ทำงานกับภาพที่ระดับความลึกสี 16-Bit per Channel โดยสมบูรณ์ ด้วยฟีเจอร์ Live Pixel Preview ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายว่า ผลงานภาพวาดของเรา จะถูกส่งออก (Export) ไปได้อย่างสวยงามขนาดไหน ด้วย Blend Mode แบบ Divide ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ รวมถึงยังมีประโยชน์ในการแก้ปัญหาสีภาพผิดเพี้ยน และการปรับแต่งโทนสีภาพอินฟราเรด (Infrared Imagery) ฟีเจอร์ Vector Warp ที่ถูกร้องขอโดยผู้ใช้งานจำนวนมาก ได้ถูกนำมาใส่ในโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว สร้างสรรค์ภาพศิลปะจากความบิดเบี้ยวของตัวอักษร หรือภาพเวกเตอร์ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับงานต้นฉบับ พรีวิวความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ด้วยเครื่องมือ Shape Builder Tool ช่วยให้การสร้างรูปวาด หรือรูปทรงเป็นเรื่องง่ายขึ้น ในรูปแบบของการ รวม/ตัดทิ้ง รูปทรง และ Segments ด้วยการสร้างผลงานในแบบอินเตอร์แอคทีฟ สร้างผลงานแปลกตาด้วย Knife Tool ที่สามารถหั่นแยก รูปทรง ส่วนโค้ง หรือตัวอักษร ให้แยกส่วนออกจากกัน และทำงานได้เร็วกว่าที่เคย มาพร้อมกับความสามารถที่เป็นประโยขน์อย่างมาก สำหรับการทำงานกับงานเขียนแบบก่อสร้าง ด้วยการวัดความยาวเส้น วัดระยะทาง และวัดขนาดพื้นที่ของวัตถุใด ๆ ในภาพ โดยอ้างอิงกับสเกลของภาพนั้น มาพร้อมกับมุมมองใหม่แบบ X-Ray ที่เหมาะกับการผ่าชิ้นงาน ให้เห็นชิ้นส่วน หรือองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน รองรับการนำเข้าไฟล์ในฟอร์แมต DXF / DWG จาก โปรแกรม AutoCAD เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมในงานเขียนแบบวิศวกรรม โดยที่ยังคงรักษาโครงสร้างเลเยอร์ รวมถึงสเกลของไฟล์ต้นฉบับ 6. ฟีเจอร์ของ แอปพลิเคชัน Affinity Designer 2 บน iPad
ให้การสร้างสรรค์ภาพวาด และงานกราฟิกที่สวยงามอย่างมืออาชีพ ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาใกล้เคียงกับโปรแกรมบนเดสก์ทอป สร้างสรรค์ผลงานได้ในทุกสถานที่อย่างไร้ข้อจำกัด ทุกเครื่องมือ และทุกการควบคุม ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้เหมาะสำหรับการแตะสัมผัสบนหน้าจอ iPad ให้ประสบการณ์ในการแต่งรูปที่น่าประทับใจ อำนวยความสะดวกด้วย Quick Menu ที่ทำให้เราเข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อม Compact Mode หรือการแสดงผลอย่างย่อของแถบเลเยอร์ และแถบการใช้งานแปรง ปรับแต่งมาให้พร้อมสำหรับ iPadOS เวอร์ชันล่าสุด ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานหน่วยความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี สร้างงานกราฟิกที่น่าตื่นตาแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำงานกับเลเยอร์ และ Artboards ได้แบบไม่จำกัดจำนวน สร้างผลงานจากการรวมภาพเวกเตอร์ และแรสเตอร์ ที่พร้อมสำหรับงานพิมพ์ ความต้องการของระบบ (System Requirements) Windows OS : Windows 11 Windows 10 May 2020 Update (2004, 20H1, build 19041) or later RAM : 8 GB. RAM recommended Harddisk : 1 GB. of available hard drive space; more during installation Display : 1,280x768 display size or larger Additional Requirement : Direct3D level 12.0-capable card Mouse or equivalent input device macOS OS : macOS Ventura 13 macOS Monterey 12 macOS Big Sur 11 macOS Catalina 10.15 CPU : Mac with Apple silicon (M1/M2) chip or Intel processor RAM : 8 GB. RAM recommended Harddisk : Up to 2.8 GB. of available hard drive space; more during installation Display : 1,280x768 display size or larger Mac Pro, iMac, iMac Pro, MacBook, MacBook Pro, MacBook Air, Mac mini iPadOS OS : iPadOS 15 or later Compatible with : iPad Pro (all models)* iPad Air (2, 3, 4 & 5)* iPad (2017 onwards) iPad mini (5 & 6) *M1-equipped iPad models are recommended for more memory-intensive design